วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

10 อันดับ สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ






สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 10. Hadrian’s Wall

กำแพงเฮเดรียน (Hadrian’s Wall) สร้างขึ้นโดยชาวโรมัน จุดประสงค์เพื่อปกป้องอาณานิคมจากการรุกรานของชนเผ่าสก็อตแลนด์ มีความยาว 117 เมตร พาดขวางแนวตอนเหนือของเกาะอังกฤษ ตั้งแต่ทะเลไอริชจนถึงทะเลเหนือ กำแพงเฮเดรียน เริ่มสร้างในรัชสมัยของจักรพรรดิเฮเดรียนในปี ค.ศ. 122 เสร็จสมบูรณ์ภายในเวลา 6 ปี ปัจจุบัน มีเพียงกำแพงส่วนกลางที่ยังคงปรากฏให้เห็น สามารถเดินได้ตลอดแนวกำแพง ด้วยความเก่าแก่และสวยงาม กำแพงเฮเดรียน จึงเป็นหนึ่งใน สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และจดทะเบียนเป็น มรดกโลก ในปี ค.ศ. 1987
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 9. Warwick Castle

ปราสาทวอริค โครงสร้างเดิมเป็นไม้ สร้างโดย สมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ แห่งอังกฤษ ใน ปีค.ศ. 1068 และได้รับการบูรณะใหม่ โดยปรับเปลี่ยนโครงสร้างเป็นหินในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ช่วงสงครามร้อยปี ด้านหน้าของ ปราสาทวอริค ที่หันตรงข้ามกับเมือง ก็ได้รับการเสริมสร้างให้แข็งแรงขึ้น ทำให้ ปราสาทวอริค กลายเป็นที่จดจำว่าเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมทางการทหารในคริสต์ศตวรรษที่ 14 เมื่อปี ค.ศ. 2001 ปราสาทวอริค ถูกขนานนามว่าเป็น 1 ใน 10 ของอนุสรณ์สถานแห่งประวัติศาสตร์ชาติ และเป็นหนึ่งใน สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุด
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 8. Lake District

อีกหนึ่ง สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ Lake District อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ในมณฑลคัมเบรีย จุดดึงดูดใจอยู่ที่ทะเลสาบและเทือกเขา ซึ่งเกิดจากการระบิดของธารน้ำแข็งในยุคสมัยก่อน เกิดเป็นภาพน้ำ ภาพเขา สวยจับใจ จนทุกวันนี้ Lake District เป็นอีกหนึ่งจุดหมายชื่อดังสำหรับนักปีนเขา ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือน ราว 14 ล้านคน
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 7. Tower of London


หอคอยแห่งลอนดอน สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอน เป็นพระราชวังหลวงและป้อมปราการ สร้างขึ้นโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1078 เพื่อป้องกันการโจมตีของชาวเมืองที่ต่อต้านชาวนอร์มัน ต่อมา หอคอยแห่งลอนดอน  ถูกใช้เป็นที่คุมขังนักโทษที่มียศศักดิ์สูง ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1100 จนถึง กลางศตวรรษที่ 20 และที่แห่งนี้ถูกโจษจันว่าเป็นหนึ่งในสถานที่สุดหลอน
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 6. The Cotswolds

คอทส์โวลส์ แนวเนินเขาละมุนน่าสัมผัส เมืองที่มีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่ชวนหลงใหลที่สุด หนึ่งใน สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ จุดที่สูงที่สุดจากระดับน้ำทะเล คือ ระยะ 330 เมตร สถานที่ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว ได้แก่ หมู่บ้านที่สร้างจากหินสีน้ำผึ้ง ย่านเมืองเก่าแห่งประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของอังกฤษ
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 5. Durham Cathedral


มหาวิหารเดอรัม คริสตจักรมหาวิหารของพระคริสต์ พระนางมารีย์พรหมจารี และเซนต์คัธเบิร์ตแห่งเดอรัม ตั้งอยู่ที่ เมืองเดอรัม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ  เป็นตึกนอร์มันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอังกฤษ โครงสร้างของ มหาวิหารเดอรัม เป็นหิน ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1093 ลักษณะโครงสร้างส่วนใหญ่เป็นแบบโรมาเนสก์ มีหอคอยสูง 66 เมตร มีบันไดขึ้นทั้งหมด 325 ขั้น ภายหลังได้รับการบูรณะและเพิ่มเติมบางส่วน แต่โดยรวมแล้ว มหาวิหารเดอรัม ก็ยังคงเป็นสถาปัตยกรรมแบบนอร์มัน ในปี ค.ศ. 2011 สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ แห่งนี้ ได้รับการโหวตจากโพลของสำนักข่าว BBC ให้เป็น สิ่งก่อสร้างที่น่าหลงใหลมากที่สุดในเกาะอังกฤษ องค์การยูเนสโกยกให้ มหาวิหารเดอรัม เป็น มรดกโลก พร้อมกับ ปราสาทเดอรัม ซึ่งอยู่ตรงกันข้าม ริมแม่น้ำเวียร์
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 4. York Minster

มหาวิหารยอร์ก เป็นคริสต์ศาสนสถานแบบกอธิค ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตอนเหนือ (รองจากมหาวิหารโคโลญ ประเทศเยอรมนี) มหาวิหารยอร์ก เริ่มสร้างใน ปี ค.ศ. 1230 และเสร็จสมบูรณ์ใน ปี ค.ศ. 1472 เป็นสิ่งก่อสร้างที่รวมลักษณะสำคัญของสถาปัตยกรรมแบบกอธิคไว้ทั้งหมด สิ่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงและเป็นที่จดจำ คือ หน้าต่างบานใหญ่ ชื่อ “Great East Window” สร้างใน ปี ค.ศ. 1408 ถือเป็นหน้าต่างประดับกระจกสีที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 3. Windsor Castle

สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ที่คุ้นชื่อกันดี พระราชวังวินด์เซอร์ เป็นหนึ่งในที่ประทับของ Queen Elizabeth ที่สอง ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และถือเป็นพระราชฐานที่ยังมีผู้อยู่อาศัยที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก พระมหากษัตริย์และกษัตรีย์แห่งอังกฤษเกือบทุกพระองค์มีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างและพัฒนา พระราชวังวินด์เซอร์ จากประวัติตามรัชสมัยต่างๆ ในยามสงบจากศึก พระราชวังวินด์เซอร์ ถูกใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ ในยามสงคราม พระราชวังวินด์เซอร์ จะถูกใช้เป็นป้อมปราการด้วยการสร้างเสริมอย่างแน่นหนา และระบบนี้ยังคงใช้สืบเนื่องมาจนปัจจุบัน
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 2. Big Ben

หอนาฬิกาพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ หรือรู้จักกันดีในชื่อของ บิ๊กเบน หอเก่าแก่นี้ถูกสร้าง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2377 หลังจากไฟไหม้พระราชวังเวสต์มินสเตอร์เดิม แท้จริงแล้ว บิ๊กเบน ไม่ใช่ชื่อหอนาฬิกา แต่เป็นชื่อของ ระฆังหนัก 13 ตัน ซึ่งแขวนอยู่ตรงช่องลมเหนือหน้าปัดนาฬิกา และคำว่า บิ๊กเบน นั้นนำมาจากชื่อของ เซอร์ Benjamin Hall ชายคนแรกที่สั่งซื้อระฆัง Big Ben มีความสูง 96.3 เมตร เป็นหอนาฬิกาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก และกลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งอังกฤษ ทั้งยังปรากฏในภาพยนตร์หลายเรื่อง
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 1. Stonehenge

สุดยอด สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ต้องยกให้ สโตนเฮนจ์ กลุ่มแท่งหินขนาดใหญ่ บนที่ราบ Salisbury บริเวณตอนใต้ของเกาะอังกฤษ ประกอบด้วยแท่งหินขนาดยักษ์ 112 ก้อน ที่มาของ สโตนเฮนจ์ ยังไม่มีบทสรุปที่แท้จริง มีเพียงข้อสันนิษฐานมากมาย นักโบราณคดีเชื่อว่า กองหินนี้ถูกสร้างขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง เมื่อประมาณ 3000 – 2000 ปี ก่อนคริสตกาล โดยการคำนวณอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี นักวิทยาศาสตร์และนักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าแท่งหินยักษ์ทั้งหมดถูกชักลากมาจากที่อื่น เนื่องจากที่ราบบริเวณนั้นไม่มีหิน ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจาก “ทุ่งมาร์ลโบโร” ที่อยู่ห่างออกไป 40 กิโลเมตร แต่ก็มีความเชื่อไปในทางเดียวกันว่า สโตนเฮนจ์ น่าจะถูกสร้างขึ้นเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของคนในยุคโบราณ ด้วยความอัศจรรย์และความลึกลับที่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้แน่ชัด สโตนเฮนจ์ จึงถูกยกให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก


10 นิสัยไทยๆที่ไม่ควรนำไปใช้ในต่างประเทศ

10 นิสัยไทยๆที่ไม่ควรนำไปใช้ในต่างประเทศ

1. มาสาย - อันนี้แย่ที่สุดเพราะคนไทยมักจะขาดระเบียบเรื่องเวลาตลอด สายนิดสายหน่อยไม่ว่ากัน แต่คนต่างชาติโดยเฉพาะชาวตะวันตกกับชาวญี่ปุ่นเค้าถือเรื่องเวลาเอามากๆๆๆๆ นัดแล้วต้องเป็นนัด ต้องมาตามเวลาเป๊ะๆ (ควรมาก่อนเวลาซัก 5-10 นาทีด้วยซ้ำ) ถ้าเค้านัด 10 โมงแต่ดันมา10.05 นี่ก็ถือว่าสายมากแล้ว ยิ่งถ้าเป็นเวลาประชุมจะถือว่าเราขาดความรับผิดชอบและเสียมารยาทมากๆ ด้วย อันนี้เจอกับตัวเองเพราะว่าเพื่อนเคยนัดกันไปกินอาหารเย็นเป็นกลุ่มใหญ่ๆ นัด ณ เวลา 16.00 เราโผล่ไป16.03 พอเราไปถึงที่นัดทุกคนมาหมดแล้วเหลือเราคนเดียวเลยโดนตักเตือนไปว่าอย่ามาสายอีก (เรานี่แบบเหงื่อตกไปเลย แค่สามนาทีเองอ่ะT^T ถ้าเป็นที่ไทยถือว่าตรงเวลานะนั่น...)

2. ต่อคิว
เวลาไปซื้อของ ซื้ออาหาร ซื้อตั๋ว ช่วยหันไปดูหน่อยว่าเค้าเข้าคิวกันตรงไหน เพราะว่าบางที่เค้าจะให้ยืนรอห่างๆ แล้วพอถึงคิวเราค่อยเดินเข้าไปจ่ายเงิน
อย่าเดินไปแซงคิวคนอื่นเพราะว่าอาจโดนคนที่ต่อคิวอยู่เดินมาต่อว่าเอาได้ แล้วที่แย่มากๆ ที่เราเคยเห็นคือเข้าคิวคนเดียวแล้วเจอเพื่อนหรือคนรู้จักดันให้เค้ามาในคิวเฉยเลย (เคยเห็นฝรั่งด้านหลังเดินเข้ามาต่อว่าแบบจะจะ บางที่เค้าก็มีเจ้าหน้าที่ดึงคนแซงออกจากคิวด้วย)
ที่ต้องระวังคือการขึ้นรถบัสหรือรถไฟอย่าวิ่งไปแซงคนข้างหน้าเพราะว่าเค้าจะต่อแถวกันขึ้นไป บางที่แม้ว่าจะไม่มีการต่อแถวรอรถแต่ว่าคนที่จะขึ้นรถจะจำคนที่มาก่อนแล้วเดินตามคนๆ นั้นไม่แซงคนที่มารอก่อนอีกต่างหาก เป็นระเบียบกันสุดๆ ยังไงช่วยเคารพกฏการต่อแถวอย่าแซงคิวคนอื่นด้วยนะคะ

3. การกินอาหาร
คนไทยมักจะกินอาหารด้วยการสั่งมาแล้วกินด้วยกัน แต่ว่าประเทศอื่นๆ เค้ากินจานใครจานมัน ไม่มีการแชร์กัน เวลาก่อนสั่งอาหารควรจะดูโต๊ะข้างๆ ก่อนว่าเค้ากินกันยังไง ถ้าเค้าสั่งมาแล้วแชร์กันได้ก็สั่งไป แต่ว่าถ้ากินแยกจานกันเราก็ไม่ควรสั่งมาแชร์กัน แยกสั่งจานใครจานมันไป (ตักแบ่งชิมกันได้ไม่แปลกแต่อย่าเอาวางไว้ตรงกลางแล้วกินด้วยกันแบบไทยๆก็พอค่ะ) 
น้ำดื่มบนโต๊ะ ก่อนหยิบดื่มควรดูให้ดีๆว่าแก้วน้ำของเราอยู่ฝั่งไหน อย่าหยิบของคนข้างๆ มาดื่มเพราะว่ามันเสียมารยาทมากๆ อย่างที่บอก ฝรั่งเค้าถือมากเรื่องอาหารของใครของมัน ไม่ใช่แบบไทยๆที่เป็นเพื่อนกันแล้วก็หยิบน้ำเค้ามาดื่มได้หน้าตาเฉย
เรื่องการกินอาหารให้หมดจาน อันนี้แล้วแต่ละประเทศว่าธรรมเนียมเค้าเป็นยังไง บางประเทศเราต้องกินอาหารให้หมดจานเพื่อให้เจ้าของบ้านภูมิใจว่าเค้าทำอาหารอร่อย แต่บางประเทศเราต้องเหลืออาหารไว้เล็กน้อยเป็นการขอบคุณเจ้าของบ้าน (มีเพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่าเคยไปกินข้าวเย็น เจ้าของบ้านทำอร่อยมากเค้าเลยกินหมดจาน เจ้าของบ้านเห็นเลยเติมให้อีกเรื่อยๆ เค้าก็กินหมดเรื่อยๆ ที่ไหนได้ประเพณีบ้านนี้ถ้าอิ่มแล้วต้องเหลืออาหารไว้ที่จานเล็กน้อยแล้วรวบมีดกับส้อมเพื่อเป็นการขอบคุณ ถ้ากินหมดเจ้าของบ้านจะเติมให้อีกเพราะคิดว่าแขกยังไม่อิ่ม เล่นเอากินกันจนจุกเลย) ถ้าจะให้ดี ค่อยๆกินช้าๆ แล้วดูคนที่อิ่มก่อนว่าเค้าทำกันยังไง ไม่อย่างนั้นเราอาจทำเรื่องเสียมารยาทโดยไม่รู้ตัวได้
ถ้าไปงานปาร์ตี้แล้วมีอาหารบุฟเฟ่ เวลาตักอาหารให้ตักพอกินอิ่มในรอบเดียว อย่าเดินหลายรอบยกเว้นว่าจะหิวจริงจัง (ไม่ควรตักอาหารพูนจานด้วย เพราะจะทำให้เราดูตะกละมาก)
ห้ามนำอาหารจากนอกร้านเข้ามานั่งกินในร้านอาหาร ห้ามเอาน้ำจากร้านนึงไปร้านนึง เข้าร้านเครื่องดื่มต้องซื้อของที่นั่น นั่งฟรีไม่ได้ เวลาเข้าร้านขายของหรือห้างสรรพสินค้าบางที่ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มติดเข้าไปอีกต่างหากต้องดื่มกินให้เรียบร้อยก่อน
การดมอาหาร อันนี้เคยมีเพื่อนชาวแอฟริกันเล่าให้ฟังว่าสิ่งที่แย่ที่สุดคือการสูดดมอาหารก่อนกิน ถ้ามีคนยื่นอาหารให้แล้วดมอาหารนั้น เค้าจะไม่กินเลย (คล้ายๆกับว่าทำให้อาหารสกปรก) แต่บางประเทศอย่างเช่น อิตาลี คนอิตาลีดมทุกอย่างก่อนกินเพราะถือว่าทำให้เจริญอาหาร ยังไงไปอยู่ประเทศไหนก็ทำตามประเพณีประเทศนั้นๆ ดีที่สุด

4. เดินข้ามถนน 
ควรข้ามที่ทางม้าลายจะปลอดภัยที่สุดเพราะต่างประเทศส่วนใหญ่คนขับเค้าจะหยุดรถให้คนที่ข้ามทางม้าลาย (ยกเว้นอิตาลีกับฝรั่งเศสที่ค่อนข้างขับรถดุดันต้องระวังทั้งบนทางม้าลายและบนถนนทั่วไป)
พอรถหยุดแล้วให้รีบข้ามแล้วพยักหัวขอบคุณเล็กน้อยเป็นมารยาท อย่าข้ามถนนไปคุยไป
ถ้าข้ามถนนตรงป้ายไฟเขียวไฟแดง บางที่ต้องกดปุ่มสัญญาณก่อนแล้วไฟจะเปลี่ยนเป็นสีแดงให้ อย่ายืนรอแบบไร้จุดหมายเพราะรถจะไม่หยุดให้แน่นอน
ไม่ควรข้ามถนนตัดหน้ารถยนต์แบบที่ทำบ่อยๆ ในไทย เพราะถ้าโดนรถชน คนผิดคือเราเต็มๆ ที่ไม่ข้ามถนนตรงทางม้าลาย

5. ขับรถ
การขับรถในต่างประเทศนั้นเค้าจะเคารพกฎจราจรมากๆ เนื่องจากแทบทุกถนนจะมีกล้องวงจรปิด(แบบที่มีกล้องจริงๆ ไม่ใช่กล้องปลอมแบบในไทย) เอาไว้จับคนขับรถผิดกฎ ณ ทุกเวลาทุกสถานที่ ดังนั้นถ้ามาเที่ยวต่างประเทศหรืออยู่ต่างประเทศแล้วอยากจะขับรถ ให้ศึกษากฎจราจรของประเทศนั้นๆ ไว้ก่อนจะได้ไม่ขับผิดกฏแล้วโดนปรับ
ไม่ควรขับรถเร็วเกินกำหนด ตรงที่การจราจรติดขัดจะมีป้ายสัญญาณเตือนเรื่องอัตราเร็วของการขับรถไว้เป็นระยะๆ ให้คอยสังเกตแล้วลดความเร็วลงตามที่กำหนด อย่าคิดว่าไม่มีตำรวจแล้วจะซิ่งแค่ไหนแบบที่ขับในไทยก็ได้เด็ดขาด เพราะอย่างที่บอกไว้คือเค้ามีกล้องวงจรปิดที่จะถ่ายรูปเราตอนที่ขับรถเร็วเกินกำหนดส่งไปที่บ้านเพื่อให้มาจ่ายค่าปรับ แล้วค่าปรับก็ไม่ใช่ถูกๆ แบบในไทยด้วย ถ้าขับรถผิดกฎบ่อยๆ โดนปรับบ่อยๆ ก็มีสิทธิโดนยึดใบขับขี่ได้อีกต่างหาก
ห้ามขับรถแซงซ้ายแซงขวา ถ้าแซงรถคันข้างหน้าแล้วให้กลับเลนเดิม อย่าขับปาดหน้าคนอื่น พยายามขับรถอยู่ในเลนเดียว ห้ามขับฉวัดเฉวียนแบบในไทยที่สามารถแซงจากทางขวาข้ามเลนไปข้ามเลนมาเด็ดขาด เพราะถ้าหากเกิดอุบัติเหตุ เราต้องตกเป็นคนผิดอย่างแน่นอน 
การจอดรถ ก่อนจอดต้องดูก่อนว่าเป็นที่ที่จอดได้หรือเปล่ามีสัญญาณอะไรบอกหรือไม่ว่าเป็นเขตห้ามจอด ถ้าจอดในที่ที่ต้องจ่ายเงินก็ต้องไปจ่ายเงินแล้วโชว์ตั๋วค่าจอดรถไว้ที่หน้ากระจก (ใส่ไว้ในรถให้คนตรวจเห็นชัดๆ) ถ้าจอดผิดที่หรือจอดรถแล้วไม่ยอมจ่ายเงิน จะมีเจ้าหน้าที่เดินมาตรวจแล้วแจกใบสั่งให้ไปจ่ายค่าปรับ (แพงกว่าค่าจอดรถอีกหลายสิบเท่า) อย่าจอดรถซ้อนคันหรือจอดรถส่งเดชไม่ดูตาม้าตาเรือนอกเวลาราชการเพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่กลับบ้านหมดแล้วแบบในไทย ยังมีเจ้าหน้าที่นอกเวลาคอยจับผิดคนอีกเยอะ

7. ทิป หลังจ่ายเงินค่าอาหารแล้วบางประเทศเค้าถือเป็นข้อกำหนดเลยว่าเราต้องให้ทิปอย่างน้อย 10% ของค่าอาหาร (เช่นในอเมริกา) บางประเทศถ้าไม่ยอมจ่ายจะถือว่าเป็นการเสียมายาทแม้ว่าจะไม่ได้เป็นข้อกำหนดตายตัว (เช่นในยุโรป) ดังนั้นก่อนลุกออกจากโต๊ะ ดูโต๊ะอื่นๆว่าเค้าจ่ายทิปกันหรือเปล่าอย่ากินเสร็จจ่ายเงินแล้วเดินออกจากร้านไปเฉยๆ

8. น้ำมูก ที่อังกฤษถ้าเป็นหวัดหรือว่าน้ำมูกไหลเพราะอากาศเปลี่ยนให้สั่งน้ำมูกทันที ห้ามสูดน้ำมูกเด็ดขาด เพราะอันนี้ถือว่าเป็นการเสียมารยาทมากๆ ที่สูดน้ำมูกกลับเข้าจมูกไป คนอังกฤษเป็นหวัดตลอดเวลาเค้าจะมีทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้าพอมีน้ำมูกนิดหน่อยก็สั่งทันที ทุกที่ทุกเวลา (แต่คนไทยเรามักจะไม่ค่อยชอบสั่งน้ำมูกต่อหน้าคนอื่น ส่วนใหญ่จะสูดกลับเข้าไปแล้วฝรั่งบอกว่ามันเสียมารมาทมากๆเลย ส่วนเราก็คิดว่าสั่งน้ำมูกต่อหน้าคนอื่นสิที่เสียมารยาท แต่ก็อย่างว่าเราอยู่ประเทศเค้าก็ต้องทำตามกฎของเค้าอยู่ดี)

9. ต่อราคาของ ข้อนี้ถ้าไปร้านที่เจ้าของไม่ได้ขายเองก็ไม่ควรไปต่อราคาเพราะเด็กในร้านก็เป็นลูกจ้าง ขายเฉพาะสินค้าตามราคาป้ายเท่านั้น จะไปต่อของลดราคากับเค้าแบบในไทยไม่ได้ ในต่างประเทศส่วนมากราคาของต่างๆ ขายตามป้ายไม่มีการลดราคาใดๆ (ยกเว้นที่จีน อันนี้ต่อได้ต่อไปบอกสิบหยวนจ่ายสองหยวนยังมีเลย)


10. รองเท้า ถ้าได้ไปบ้านเพื่อนหรือไปบ้านคนรู้จักในต่างประเทศ บางบ้านเค้าใส่รองเท้าในบ้านเราก็ใส่เข้าไปได้เลย อย่าไปถอดรองเท้าแล้วเดินเท้าเปล่าเข้าบ้านเค้าเพราะธรรมเนียมต่างกัน แต่บางบ้านเค้าก็จะมีรองเท้าให้เปลี่ยนเราก็เปลี่ยนไป ยังไงก็ต้องถามเจ้าบ้านก่อนว่าจะให้ถอดหรือจะให้ใส่อันนี้ต่างบ้านก็ปฏิบัติต่างกัน 


อังกฤษวันละคำ


วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

อยากเก่งภาษาอังกฤษควรเริ่มจาก


สนทนาภาษาอังกฤษ 1000คำ เบื้องต้น


10 จังหวัดน่าเที่ยวในประเทศไทย ตามมุมมองของชาวต่างชาติ

10 จังหวัดน่าเที่ยวในประเทศไทย ตามมุมมองของชาวต่างชาติ


 10 จังหวัดน่าเที่ยวในประเทศไทย ตามมุมมองของชาวต่างชาติ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           ต่อให้เกิดและโตที่เมืองไทยมาตั้งแต่เล็ก ก็ใช่ว่าทุกคนจะเที่ยวเมืองไทยได้ทั่วทั้งหมด (จริงไหม) ในเมื่อประเทศไทยเรานั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะออกจะตายไป เพราะแบบนี้อย่างไรล่ะนักท่องเที่ยวจากทั่วมุมโลกถึงได้แห่แหนกันมาเที่ยวบ้านเราไม่ขาดสาย ดังนั้น ถ้าวันหยุดยาวของคุณไม่พอจะไปเที่ยวต่างประเทศ ก็ลองเที่ยวในประเทศก่อนก็ได้ รับรองว่าสนุกมีสีสันไม่แพ้กันเลยทีเดียว แถมยังประหยัดกว่าอีกต่างหาก ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวม 10 จังหวัด น่าเที่ยวในประเทศไทย ที่จัดโดยเว็บไซต์ Touropia มาฝากกันแล้ว

1. กรุงเทพฯ


 10 จังหวัดน่าเที่ยวในประเทศไทย ตามมุมมองของชาวต่างชาติ

           สำหรับอันดับ 1 นั้น คงหนีไม่พ้นกรุงเทพมหานครเมืองหลวงของบ้านเรา ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่กรุงเทพฯ จะคว้าอันดับ 1 ไปได้อย่างง่ายดาย ในเมื่อมันเป็นเมืองที่คึกคักไม่เคยหลับใหลออกเสียขนาดนี้ มีทั้งวัดพระแก้วอันสวยงาม รวมถึงวัดวาอารามต่าง ๆ หรืออยากช้อปอยากชิมก็สามารถไปเดินเล่นที่ถนนข้าวสาร ถนนเยาวราช แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมได้ แม้แต่ตอนกลางคืนก็มีร้านเหล้าบรรยากาศน่านั่งให้เลือกจนตาลายเชียวล่ะ

 2. เชียงใหม่

10 จังหวัดน่าเที่ยวในประเทศไทย ตามมุมมองของชาวต่างชาติ

          ไม่ว่าคุณจะชอบเที่ยวแนวไหน เชื่อว่าเมืองแห่งการท่องเที่ยวอย่างเชียงใหม่ก็สามารถตอบโจทย์ของคุณได้หมดแน่นอน เพราะแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอย่างวัดพระธาตุดอยสุเทพก็มี หรือถ้าอยากไปเที่ยวเอาใจนักช้อปเพื่อซื้อของที่ระลึกสักหน่อย ถนนคนเดินเชียงใหม่ก็จัดว่าเป็นที่โปรดของนักช้อปเลยทีเดียว อ๊ะ ๆ แต่ถ้าชอบชื่นชมธรรมชาติแล้วล่ะก็ ดอยอินทนนท์, ดอยปุย, ดอยอ่างขาง และม่อนแจ่ม ฯลฯ ก็เป็นอีกหนึ่งคำตอบที่น่าสนใจเหมือนกันนะ

 3. ภูเก็ต

10 จังหวัดน่าเที่ยวในประเทศไทย ตามมุมมองของชาวต่างชาติ

          แน่นอนว่าพักผ่อนทั้งที ทะเลคงเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนสนใจ เพราะอยากไปพักผ่อนเล่นน้ำทะเลชิล ๆ รวมทั้งกินอาหารทะเลให้จุใจแน่นอนอยู่แล้ว และหากพูดถึงทะเลที่สวยงามของประเทศไทย การเดินทางสะดวกสบาย มีที่พักให้เลือกหลากหลาย ก็คงต้องนึกถึงภูเก็ตนี่แหละ ด้วยหาดทราย น้ำทะเลสีฟ้าใส พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทางการท่องเที่ยวครบครัน ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวในฝันอย่างสมบูรณ์

 4. กาญจนบุรี
 10 จังหวัดน่าเที่ยวในประเทศไทย ตามมุมมองของชาวต่างชาติ

          เมืองกาญจน์หรือกาญจนบุรี เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางที่มีผู้คนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เพราะที่นี่เต็มไปด้วยเรื่องราวในอดีตที่น่าสนใจ แหล่งอารยธรรมเก่าแก่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และเป็นสถานที่ตั้งของสะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อันมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นป่าเขาลำเนาไพร ถ้ำ และน้ำตกสวย ๆ เช่น น้ำตกเอราวัณ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น หรือน้ำตกไทรโยค ฯลฯ

 5. อยุธยา

 10 จังหวัดน่าเที่ยวในประเทศไทย ตามมุมมองของชาวต่างชาติ

          จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นตัวสะท้อนวัฒนธรรมเก่าแก่ยาวนานของบรรพบุรุษชาวไทยในสมัยก่อน และมีร่องรอยของอดีตกาลให้ได้ไปท่องเที่ยวตามหากลิ่นอายความเก่าก่อนอันรุ่งเรือง ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่นานาอารยประเทศอีกด้วย โดยอดีตเมืองหลวงแห่งนี้มีปราสาท 3 หลัง และวัดอีก 400 แห่ง ซึ่งวัดที่โดดเด่นมากที่สุด น่าจะเป็น "วัดมหาธาตุ" ที่คนแห่กันไปไม่ขาดสาย และนอกจากตัววัดที่งดงามแล้ว เศียรพระในรากต้นโพธิ์บริเวณนั้นที่ผู้คนเคารพบูชา ยังเป็นภาพน่าทึ่งที่หาชมที่ไหนไม่ได้อีกด้วย

 6. อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี

 10 จังหวัดน่าเที่ยวในประเทศไทย ตามมุมมองของชาวต่างชาติ

          อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี นับเป็นขุนเขาแห่งป่าฝน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งในแหล่งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเลยก็ว่าได้ ทำให้มันเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาชนิด อาทิ ช้าง, เก้ง, หมูป่า, หมี, สมเสร็จ และลิงอีกหลายสายพันธุ์ และนอกจากสัตว์นานาชนิดแล้ว ด้วยทิวทัศน์เทือกเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านเหนือผืนน้ำอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา ทำให้สถานที่แห่งนี้ได้รับฉายาว่าเป็น “กุ้ยหลินเมืองไทย” อีกด้วย นอกจากนี้ อุทยานแห่งชาติเขาสกยังเหมาะกับนักผจญภัยตัวจริง เพราะคุณสามารถทำกิจกรรมลุย ๆ อย่าง โหนสลิง เดินสำรวจถ้ำ และล่องแก่งได้ด้วย

 7. ปราสาทหินพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์

 10 จังหวัดน่าเที่ยวในประเทศไทย ตามมุมมองของชาวต่างชาติ

          ปราสาทหินพนมรุ้งเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ซึ่งพนมรุ้งมาจากภาษาเขมรคำว่า วนํรุง แปลว่า ภูเขาใหญ่ โดยองค์ประกอบและแผนผังของปราสาทพนมรุ้ง ได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเป็นแนวเส้นตรง และเน้นความสำคัญเข้าหาจุดศูนย์กลาง ซึ่งจุดเด่นที่สุด ก็คือ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 (นับแบบไทย) ของทุกปี พระอาทิตย์ในยามเช้าจะสาดแสงลอดทะลุซุ้มประตูของตัวปราสาททั้ง 15 ช่อง เป็นแนวเดียวกัน เกิดเป็นภาพที่งดงามตรึงตา ซึ่งนับเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

 8. สุโขทัย

 10 จังหวัดน่าเที่ยวในประเทศไทย ตามมุมมองของชาวต่างชาติ

          เมืองหลวงแห่งแรกของประเทศที่เป็นตัวแทนสะท้อนถึงวัฒนธรรมในอดีตได้เป็นอย่างดี ซึ่งทุกอย่างได้ถูกรวมเอาไว้ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ไม่ว่าจะเป็นซากของวัดวาอาราม พระพุทธรูป และรูปปั้นต่าง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นห่างกันไม่ไกลนักยังมีอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยและอุทยานแห่งชาติรามคำแหง ให้นักท่องเที่ยวแวะชมธรรมชาติอันสวยงามอีกด้วย

 9. อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
 10 จังหวัดน่าเที่ยวในประเทศไทย ตามมุมมองของชาวต่างชาติ

          สมัยก่อนมันอาจเคยเป็นหมู่บ้านเงียบ ๆ ทางตอนเหนือของไทย แต่ปัจจุบันที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาแวะเวียนคึกคักอยู่เสมอ ซึ่งถนนคนเดินของที่นี่เป็นแหล่งช้อปสำหรับนักชิมเลยทีเดียว หรือหากอยากเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ก็มีให้เลือกเต็มไปหมด อาทิ น้ำตกหมอแปง น้ำพุร้อนท่าปาย และน้ำตกม่วงสร้อย ยิ่งไปกว่านั้นแม้จะเป็นเพียงแค่เมืองเล็ก ๆ แต่ด้วยความที่มีนักท่องเที่ยวทยอยมาไม่ขาดสาย ที่นี่จึงมีร้านอาหารและโรงแรมเปิดให้บริการมากมาย แถมยังมีของที่ระลึกให้เลือกซื้อจนลายตาเลยทีเดียว

 10. เชียงราย

 10 จังหวัดน่าเที่ยวในประเทศไทย ตามมุมมองของชาวต่างชาติ

         จังหวัดเชียงรายจัดว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งสวนไม้งามของที่นี่เป็นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจชมธรรมชาติน่าประทับใจ โดยเฉพาะในช่วงท้ายปีที่จะมีการจัดเทศกาลชมดอกไม้ด้วย และวัดร่องขุนที่มีสีขาวล้วนแสดงถึงพระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า ยังเป็นวัดที่โดดเด่นจนสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศเช่นกัน

         และ 10 อันดับนั้นก็คืออันดับที่จัดโดยเว็บไซต์ Touropia ที่ช่วยให้เราได้เห็นอีกมุมมองว่าชาวต่างชาติเขาคิดว่าที่ไหนในบ้านเราน่าเที่ยวที่สุด โดยมันเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความงดงามในเมืองไทยเท่านั้น ซึ่งในประเทศไทยของเรายังมีแหล่งท่องเที่ยวน่าชื่นชมอีกมากมาย รอให้เราแวะไปเยี่ยมเยียน