วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

การท่องศัพท์

การท่องศัพท์  
                                                                                                                                                          หลายคนคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า "อยากเก่งภาษาอังกฤษก็ท่องศัพท์เยอะๆสิ"ซึ่งหลายคนก็ได้นำมาใช้ แต่ก็ยังมีคนบอกว่าไม่เห็นจะเก่งขึ้นเลยเทคนิคนี้อาจจะฟังดูง่ายๆครับแต่ถ้าเรานำไปใช้แบบไม่มีกระบวนการเนี่ยมันก็ไม่ค่อยเกิดประโยชน์หรอกครับวันนี้ผมเลยจะมาอธิบายวิธีการนำเคล็ดลับนี้ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพครับและแน่นอนครับ ผมจะอธิบายอย่างละเอียด เพื่อๆเพื่อนจะได้นำไปใช้อย่างถูกต้องครับอันดับแรกเรามาดูอุปกรณ์ที่เราต้องเตรียมในการ ท่องคำศัพท์ ครับก็มี สมุด 1 เล่ม ดินสอ(หรือปากกา) 1 แท่ง หูฟังหรือลำโพงไว้ฟังการออกเสียงที่ถูกต้องนะครับ (หากอยู่คนเดียวก็เปิดลำโพงเต็มที่เลยครับ หากอยู่กับเพื่อนก็อาจจะไส่หูฟังนิดนึง) โทรศัพท์หรืออะไรก็ได้ที่อัดเสียงได้และนี้คือเว็ปตัวช่วยของเราครับhttp://www.oxfordlearnersdictionaries.com/wordlist/english/oxford3000/และแน่นอนเว็ปที่ขาดไม่ได้https://translate.google.co.th/ ซึ่งเว็ปนี้เวลาเราจะใช้ ให้แปลที่ละคำนะครับ อย่ายกมาวางทั้งประโยค เพราะกูเกิ้ลแปลประโยคได้มั่วมากๆครับที่นี้มาถึงคำถามที่หลายคนอาจเคยถามเริ่มท่องศัพท์ตั้งแต่คำไหนดี?ซึ่งมีหลายคนที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง จะท่องคำไหนผมขอแนะนำให้ทุุกคนรู้จักกับ'Oxford 3000 key words' ครับ (ตามลิ้งที่ผมให้ไป)คือ คำศัพย์ 3000 คำที่ใช้บ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษ หรือพูดง่ายๆก็คือคำศัพท์ 70% ที่ใช้อยู่ทุกคนวันก็มาจาก 3000 คำนี้และครับหลายคนอาจบอกว่า 'เยอะจังตั้ง 3000 แหน่ะ' เยอะ แต่ทุกคำเราได้ใช้แน่นอนครับ สู้ไว้ครับเรามาเริ่มกันเลยครับอันดับแรกเข้าไปที่ ลิ้งค์แรกที่ผมให้ เลื่อนมาข้างล่างสักนิดนึง เราจะเจอคำศัพท์เรียงกันยาวตามลำดับตัวอักษร(A-Z)ครับไม่ต้องกดเข้าไปนะครับ เพราะเราสนใจแค่คำศัพท์และวิธีออกเสียงพอ ถ้ากดเข้าไปเขาจะอธิบายความหมายไว้ในภาษาอังกฤษ หรือพูดง่ายๆคือแปลอังกฤษเป็นอังกฤษอีกทีครับแต่ถ้าใครจะเข้าไปดูก็ไม่เป็นไรนะครับที่นี้วิธีท่องคำศัพท์ของเราก็คือ ท่องอักษรละ 2 คำต่อวันครับเอ๊ะ หลายคนอาจจะงง อักษรละ 2 คำต่อวันยังไงหว่าก็คือวันนี้ให้เราท่องคำศัพท์ให้หมวด A-Z อย่างละสองคำก็จะตกอยู่วันละ 52 คำครับ อาจจะฟังดูเยอะนะ วันละตั้ง 52 ครับ แต่จริงผมว่ามันก็ไม่เยอะเท่าไหร่นะแบ่งเวลาท่องออกเป็น 3 ช่วงเช้าท่อง 15 คำเที่ยง 15 คำเย็น 15 คำที่เหลือก่อนนอนถ้าใครฝืนตัวเองให้ทำจนเป็นนิสัยได้นะ ผมบอกเลยว่าคุณจะพัฒนาเยอะมากครับแต่ถ้าใครไม่ไหวจริงๆก็ให้ลดมาเหลือ อักษรละ 1 คำต่อวันก็ได้ครับแล้วให้เราจดคำศัพท์ที่เราท่องแต่ละวันลงในสมุดนะครับจดแค่ภาษาอังกฤษนะครับ คำแปลภาษาไทยไม่ต้องจดก็อย่างที่เคยอธิบายไปในบทความที่แล้วครับ (ลองไปหาอ่านดูตอนที่ 1)การที่เราไม่จดภาษาไทยไปเนี่ย จะเหมือนเป็นการบังคับให้เราใช้สมองเพื่อจดจำ และเมื่อผ่านไป 2-3 วัน เรากลับมาอ่านจะได้ให้สมองใช้เวลานึกคำศัพท์ที่เราแปลความหมายไม่ได้ วิธีนี้แหละครับจะทำให้เราจำศัพท์ได้เร็วมากแล้วไม่ใช้แค่จดอย่างเดียวนะครับ ให้ฟังด้วยจะเห็นว่ามีปุ่มให้กดอยู่ 2 ปุ่ม สีน้ำเงิน กับสีแดงปุ่ม 2 ปุ่มนี้คือเสียงเจ้าของภาษาพูดคำศัพท์ครับสีน้ำเงิน คือ สำเนียงอังกฤษ (ฺBritish English)สีแดง คือ สำเนียงอเมริกัน (American English)ให้เราเลือกฝึกพูดตาม 1 สำเนียงนะครับ ตาามใจชอบเลยให้ลองอัดเสียงดูว่า เวลาเราพูดตามสำเนียงไหน เสียงเราฟังดูเหมือนมากกว่า หากเสียงเราไปทางสำเนียงอังกฤษ ก็ให้ฝึกพูดตามสำเนียงอังกฤษนะครับ แต่ถ้าไปอีกสำเนียงก็ฝึกตามสำเนียงนั้นต้องฝึกพูดตามและฟังให้ออกด้วยนะครับ เพื่อครั้งหน้าเราได้ยินหรือได้ใช้ จะได้รู้ว่าต้องออกเสียงยังไงให้ฝรั่งเข้าใจอ่อ อย่าลืมแปลความหมายคำศัพท์ด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าพูดได้สำเนียงเป๊ะ แต่ไม่รู้ความหมายก็ไม่ไหวนะครับ :DD

สรุปนะครับ1.ท่องคำศัพท์อักษรละ 2 คำหรือ 1 คำ ต่อวัน2.จดแค่ภาษาอังกฤษ3.บันทึกเสียงตัวเองแล้วฟัง4.เลียนแบบเสียงให้เหมือนเจ้าของภาษาที่สุดนี่แหละครับแค่นี้เราก็มีวิธีการท่องคำศัพท์แบบมีประสิทธิภาพแล้วแล้วผมบอกได้เลยว่า ได้ใช้ทุกคำแน่นอนครับเพราะ คำศัพท์3000นี้ คือคำที่ใช้บ่อยที่สุดคำมีทางลัดขนาดนี้แล้วอย่าท้อนะครับอย่าลืมแชร์ไปให้เพื่อนๆด้วยละจะได้เก่งกันเยอะๆสุดท้ายก็เหมือนเดิมครับสู้ต่อไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น